วิกฤตด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ของคนเมือง เช่น นอนดูทีวี นั่งเล่น แกดเจ็ต แชตกับเพื่อนผ่านหน้าจอโทรศัพท์นานๆ บนโซฟาตัวโปรด นั่งอยู่ในรถที่ติดเป็นเวลาหลายชั่วโมงแทบทุกวัน นั่งเรียนหนังสือหลายชั่วโมง หรือนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยแทบไม่ได้ลุกไปไหน หากใครกำลังมีไลฟ์สไตล์เหล่านี้อยู่ละก็...นั่นหมายความว่าคุณกำลังเผชิญกับ "พฤติกรรมเนือยนิ่ง" ซึ่งเป็นสาเหตุให้คุณขยับร่างกายน้อยลง และอาจส่งผลเสียต่างๆ ต่อสุขภาพ

ประเทศไทยมีประชากรที่มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เหตุเพราะทุกวันนี้คนไทยมีพฤติกรรมติดจอ ใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์นานๆ หรืออาจจะนั่งเรียนนาน เล่นเกมคอมพิวเตอร์ และเล่นโทรศัพท์มือถือรวม ถือเป็นความสุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพที่ชัดเจน

การที่เราอยู่นิ่งๆ นั่งนานๆ ไม่มีการขยับตัวเป็นเวลานานๆ ทำให้มีการใช้พลังงานขาออกลดลง เกิดความไม่สมดุลกับพลังงานขาเข้า ที่ได้รับจากอาหารที่บริโภคไปในแต่ละวัน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะสั้น ได้แก่ เหนื่อย หอบง่าย และส่งผลในระยะยาว ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 โรคอ้วน และมะเร็งบางชนิด

การมีกิจกรรมขยับร่างกายที่เพียงพอและบริโภคให้สมดุลในแต่ละวันจึงเป็นการแก้ไขปัญหาวิกฤตด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้อง การสร้างอุปนิสัยในการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การปรับเพิ่มกิจกรรมทางกาย ได้ถูกนำมาใช้ในการชะลอปัญหากลุ่มอาการเสื่อมทางกายอย่างได้ผล ภายใต้หลักการการออกกำลังกายเป็นยาวิเศษ

กระตุ้นให้คนสนใจเรื่องการออกกำลังกายมากขึ้น เพิ่มไลฟ์สไตล์แอ็กทีฟเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน การลุกขึ้นยืดเหยียด 5 นาทีในทุกชั่วโมง การเดินหรือปั่นจักรยานไปหน้าปากซอยแทนการนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพิ่มการทำกายบริหาร หรือทำงานบ้าน ทำครัว ทำสวน กิจกรรมเหล่านี้หากทำอย่างต่อเนื่องก็เป็นการใช้ชีวิตแอ็กทีฟไลฟ์สไตล์หรือการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์