เปิดศักราชใหม่ได้ไม่นาน หลายคนคงเก็บเกี่ยวนาทีทองในช่วงต้นปี และต้นเดือนวางแผนการทำงาน การเรียน ตั้งเป้าหมายในชีวิต (หรือตลอดทั้งปี) และเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ อย่างจริงจัง

          ซึ่งแน่นอนมันอาจเป็นช่วงเวลาที่หนักหน่วงสำหรับใครบางคน ทั้งกดดัน และผลักดันตัวเองเพื่อให้ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ จนบางครั้งทำให้มองข้ามปัญหาสุขภาพ และละเลยการดูแลตัวเองไป โดยเฉพาะความเครียดสะสม นอนไม่หลับพักผ่อนไม่พอ ส่งผลให้ร่างกายเพลีย-เหนื่อยง่ายโดยไม่รู้ตัว ถ้าหนึ่งในนั้นเป็นคุณที่ตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้สูง และโหมงานหนักอย่างต่อเนื่องจนไม่มีเวลาพักผ่อน แถมยังตื่นกลางดึกเป็นประจำจนขอบตาคล้ำเป็นแพนด้า

          วันนี้มี 6 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณหลับสบายยาวนานตลอดคืนหลังจากทำงานหนักๆ มาทั้งวัน เพื่อไม่ให้สุขภาพคุณแย่ตั้งแต่ต้นปี และปลดปล่อยสมองได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง อย่ารอช้า ติดจรวดไปดูกันเลยดีกว่า

          1. อาบน้ำ - แช่น้ำอุ่นผ่อนคลายสบายๆ

          ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อย-เพลีย หลังจากทำงาน หรือเข้าคลาสเรียนมาทั้งวัน เราแนะว่าพอกลับถึงบ้านแล้วให้คุณนั่งพักสัก 1-2 ชม. (หรือนอนเล่นก็ได้ ถ้าคุณไม่กลัวพลอยหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่อาบน้ำนะ) ตามด้วยดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้ว จะช่วยให้รู้สึกเฟรชมากขึ้น หรือถ้าคุณอยากผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม ระหว่างที่นั่งพักประมาณครึ่งชั่วโมง คุณก็เตรียมน้ำอุ่นตีฟองสบู่ให้พร้อม หรือน้ำอุ่นที่ผสมเกลือแมกนีเซียม เกลือบริสุทธ์เล็กน้อย หยดกลิ่นลาเวนเดอร์หอมละมุนสัก 2-3 หยด สำหรับนอนแช่สบายๆ ก่อนนอน ยิ่งถ้าคุณเปิดเพลงคลอเบาๆ ฟังเคลิ้มๆ ระหว่างแช่น้ำอุ่นด้วยแล้ว รับรองคุณจะลืมไปเลยว่าใช้เวลาอยู่ในห้องอาบน้ำนานเท่าไหร่ !

          หากแต่ถ้าคุณไม่ชอบแช่น้ำ เพียงแค่อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น ถูตัวด้วยสบู่-ครีมอาบน้ำสมุนไพรต่างๆ มันก็ช่วยคุณรีแล็กซ์ได้ไม่น้อย เพราะกลิ่นของสมุนไพรจะช่วยคุณคลายเครียดจากเรื่องปวดหัวต่างๆ ที่พบเจอมาตลอดวัน และน้ำอุ่นจะช่วยปรับสมดุลอุณหภูมิในร่างกายคุณ ช่วยให้เลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้คุณรู้สึกสบายตัว ปลอดโปร่ง และหลับสบายตลอดคืน ไม่ตื่นขึ้นกลางดึกอีกด้วย

          2. กำหนดเวลานอนไว้เลย

          ถ้าคุณไม่อยากหลับๆ ตื่นๆ หรือตื่นขึ้นมากลางดึกเหมือนอย่างที่แล้วๆ มา เราอยากให้คุณตั้งกำหนดเวลานอน เวลาตื่นไว้เป็นกิจวัตรเลย อย่างเช่น ช่วงเวลานอนที่ดีที่สุดคือ นอนตอนสี่ทุ่ม และตื่นหกโมงเช้า (นอนอย่างน้อย 7-8 ช.ม.) ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกคืนจนร่างกายเริ่มปรับตัวได้ แล้วคุณจะเห็นว่าเมื่อถึงเวลาสี่ทุ่มที่ร่างกายคุณต้องการพักผ่อน-ถึงเวลานอนแล้ว มันจะไปกระตุกต่อมความง่วงของคุณโดยอัตโนมัติ ให้คุณรู้สึกเพลียอยากนอนในทันที แถมยังช่วยให้คุณหลับลึกมากขึ้นจนถึงเช้าวันใหม่ที่คุณจะสปริงตัวขึ้นอย่างสดใสด้วยล่ะ

          หากคุณไม่กำหนดเวลานอนและตื่นแบบนี้ คุณก็จะพลอยหลับๆ ตื่นๆ พะเว้าพะวงเรื่องนั้นเรื่องนี่ และสะดุ้งตื่นเป็นพักๆ นอนไม่เป็นเวลาสักที ซึ่งแน่ล่ะมันจะส่งผลแย่กับร่างกายคุณในเวลาต่อมา และถ้าคุณเป็นคนที่นอนดึกอยู่แล้ว นั่นก็จะทำให้ร่างกายคุณได้รับการพักผ่อนนอนเข้าไปอีก นานๆ เข้าก็จะส่งผลให้ตาคุณเป็นแพนด้า และเจ็บป่วยได้ง่ายเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทางที่ดีปรับเปลี่ยนเวลานอนให้เร็วขึ้น ที่สำคัญจำไว้ว่าร่างกายคุณต้องการอะไรที่เป็นกิจวัตรนะ การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ

          3. ปิดเทคโนโลยี อุปกรณ์สื่อสารรบกวนทั้งหมด

          อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท ยิ่งถ้าคุณติดโทรศัพท์ เทคโนโลยีต่างๆ ในชั่วโมงการนอน และพลอยหลับไปทั้งๆ ที่อุปกรณ์สื่อสารยังเปิดอยู่ หรือเปิดวางอยู่ข้างๆ หมอนระหว่างการนอนนั้น รู้ไหมว่าคลื่นกระแสไฟจะส่งผลต่อการนอนหลับของคุณให้หลับไม่สนิท พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ และตื่นขึ้นมาคุณจะรู้สึกง่วงทั้งๆ ที่คุณคิดว่านอนอิ่มเพียงพอแล้ว

         เปลี่ยนความคิดซะใหม่ให้การนอนคือ ชั่วโมงพักผ่อนของคุณอย่างเต็มที่ หลีกเหลี่ยงการใช้แสงไฟสว่างจากหน้าจอ (ที่ทำให้คุณรู้สึกปวดตา) และเรื่องเครียดๆ จากการรับรู้ข้อมูลข่าวสารก่อนนอน วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณนอนหลับสนิท-ลึกนานขึ้น ในกรณีที่คุณมีเรื่องเร่งด่วนจากการทำงาน โอเคคุณสามารถเปิดเทคโนโลยี อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ระหว่างการนอนได้ แต่ก็ควรวางให้ห่างจากตัวคุณระยะหนึ่ง (วางไว้บนหัวเตียง หรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้อยู่) เพื่อไม่ให้คลื่นมารบกวน และทำลายสมองระหว่างการนอนหลับ แต่อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นอะไรคุณปิดเทคโนโลยี อุปกรณ์สื่อสารรบกวนทั้งหมดได้จะเป็นการดีที่สุดนะ ค่อยเปิดเช็กย้อนหลังพรุ่งนี้เช้าก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา

       4. ไม่ดื่ม และไม่สูบ สารพัดของมึนเมาก่อนนอน

       หลายคนเข้าใจว่าการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ก่อนนอนจะช่วยให้หลับง่าย สบายมากขึ้นตลอดคืน แถมยังเป็นยากล่อมชั้นดีสำหรับใครที่นอนไม่หลับ หรือหลับยาก (แบบมึนนิดๆ หัวถึงหมอนแล้วหลับเลย) ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มีส่วนช่วยอยู่บ้าง เพียงแต่ถ้าคุณดื่มของมึนเมา (เหล้า, เบียร์, ไวน์) เรียกอารมณ์กรึ่มๆ สัก 1-2 แก้ว แทนที่มันจะนอนหลับง่ายกว่าเดิม กลับกลายเป็นรู้สึกครึกครื้น กระปรี้กระเปร่า และตาสว่างขึ้นซะมากกว่าน่ะสิ หากใครจะเถียงว่าดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำให้หลับสบาย หลับได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องทำสมาธิ หรือบังคับตัวเองให้หลับ เราว่ามันก็จริงอยู่ … แต่นั่นหมายถึงคุณต้องดื่มหนักมาพอสมควร

        อย่างไรก็ตาม การดื่มหนักก่อนนอนจนติดเป็นนิสัย วิธีแก้ปัญหาการนอนหลับง่ายๆ แบบนี้ใช่ว่าจะดีหรอกนะ เพราะไม่เพียงคุณจะรู้สึกมึนหัว เหม่อลอย ไม่สดชื่น เกิดอาการเมาค้างในตอนเช้าแทบทุกวันแล้ว มันยังส่งผลเสียสะสมต่อสุขภาพคุณด้วย อย่างเช่น ความจดจำสิ่งต่างๆ จะสั้นลง และโรคมะเร็งตับที่กำลังถามหายังไงล่ะ … ปรับเปลี่ยนทัศนคติการดื่มซะใหม่ หรือหากคุณไม่รู้จะทำอย่างไรก็ให้ย้อนกลับไปอ่านข้อ 2 ซึ่งคุณอาจจะข่มตา ข่มใจบังคับให้ตัวเองหลับในช่วงแรกๆ แต่เชื่อเถอะว่าหลังจากคุมเวลานอนจนเป็นกิจวัตรแล้ว การนอนหลับก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

        5. หมอนนุ่มๆ

        หมอนนุ่มๆ และหมอนหนุนนี่แหละส่วนสำคัญของการนอนหลับสบาย ยิ่งเป็นหมอนหนานุ่มคู่กับเตียงคิงไซส์ และผ้าห่มผืนใหญ่อบอุ่น เชื่อได้เลยว่าคุณไม่อยากลุกจากเตียงไปไหนเลยทีเดียว สำหรับเราคิดว่าการเลือกหมอนนอน หรือหมอนหนุนสักใบก็เหมือนกับการเลือกบราของสาวๆ นั่นแหละ ที่ต้องตรงไซส์ ใส่แล้วพอดีเข้ากันกับหน้าอกสาวๆ แถมยังต้องมีความนุ่มละเอียด ใส่สบายไปในตัว หมอนที่เข้ากับคุณและทำให้คุณหลับสบายตลอดคืน ไม่เพียงความสูงจะพอดีกับศีรษะ เหมาะกับนิสัยตำแหน่งการนอนของคุณแล้ว แต่มันต้องนุ่ม-รู้สึกสบายหัวระหว่างการนอน สามารถพลิกตัวไปมาได้ง่าย เพื่อให้คุณหลับฝันดีตลอดคืน ไม่มีอาการปวดคอมาให้เห็น

       หากแต่ในการเลือกหมอน ไม่ใช่แค่คุณเห็นหมอนนุ่มๆ ก็ซื้อมาเลยในทันที เพราะเวลานำมาใช้จริงแล้วอาจไม่ได้นอนสบายอย่างที่คิด คุณควรเลือกหมอนที่ให้ความนุ่มแบบพอดีๆ ไม่ยุบตัวง่ายเวลานอน และไม่นิ่มมากจนเกินไปจะคูลที่สุดนะ อีกทั้งเราไม่แนะนำให้คุณใช้หมอนสูงนอนมากนัก เพราะจะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองคุณไม่เพียงพอ จนเป็นเหตุให้ตื่นเช้ามาคุณรู้สึกวิงเวียน หน้ามืดได้

        6. ทานอาหารสบายๆ เบาท้อง

        ถ้าคุณอยากหลับสนิท ไม่รู้สึกพะอืดพะอมกลางดึก และลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เพราะอาหารไม่ย่อย การหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารมื้อใหญ่ๆ หรืออาหารย่อยยากก่อนนอนสัก 3 ชม. ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย! คุณเคยสังเกตไหมว่าเมื่อทานอาหารหนักๆ อย่างสเต็ก หรือมันบดตอนหัวค่ำ นอกจากอาหารเหล่านั้นจะย่อยช้า ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดแน่นท้องแล้ว มันยังทำให้คุณอยากลงไปนอนสบายๆ โดยไม่รู้ตัว (เพราะความอิ่ม-คลายความแน่นท้องนั่นเอง) และถ้าคุณเผลอหลับไปใช่ว่าคุณจะหลับสนิท ในทางกลับกันมันทำให้คุณเกิดภาวะกรดไหลย้อน และรู้สึกท้องอืดอย่างช่วยไม่ได้

          ถ้าคุณเกิดหิวหลังหกโมง อาหารเบาสบายท้อง เช่น โยเกิร์ต, ขนมทานเล่นโปรตีนสูง, นมดิบ 1 แก้ว หรือสลัดต่างๆ เป็นสิ่งที่เราอยากแนะนำให้ทานก่อนเข้านอน 1-2 ชม. มันจะช่วยให้คุณอิ่มท้อง นอนหลับเต็มที่ และหลับสบายลึกขึ้นกว่าเดิม หรือถ้าไม่คุณอาจทานเบาๆ ที่ช่วยรักษาสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด อย่างน้ำผึ้งดิบ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยคุณหลับสบายขึ้นไม่ต่างกัน แถมยังรักษาหุ่นสวย-ไม่ต้องกลัวอ้วนด้วย

 

 

        ที่มา : เว็บไซต์มติชน

        ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต