ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี แนะนำการกินอาหารหน้าร้อนให้ถูกสุขาภิบาล ต้องเน้นความสะอาด มีความใหม่ สด

ไม่ควรเก็บไว้นานหลายวันหรือค้างคืน ส่วนผสมไม่ควรมีไขมันสูง กินร้อน ช้อนกลาง ส่วนกลุ่มน้ำเครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ภาชนะที่บรรจุต้องสะอาดใหม่ เพราะว่า หากเลือกไม่ถูกวิธี จะส่งผลให้เกิดท้องร่วง ท้องเสีย เพราะแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูร้อน ความไม่สะอาด เป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคท้องร่วง ทำให้เกิดการติดเชื้อ การรักษาอาการท้องร่วงในเบื้องต้น คือ การจิบน้ำชาเข้มข้นจะช่วยลดอาการท้องร่วง และหยุดรับประทานอาหารที่คาดว่าทำให้เกิดท้องร่วง รวมทั้งผลไม้ที่ปล่อยทิ้งไว้นานๆ หรือแช่อยู่ในน้ำแข็ง (ผลไม้รถเข็น) สำหรับผู้ที่ชอบดื่มน้ำผลไม้ก็ควรเป็นน้ำผลไม้ที่อยู่ในอุณหภูมิห้อง หากดื่มใส่น้ำแข็งก็ต้องระมัดระวังเพราะน้ำแข็งอาจไม่สะอาดหรือมีเชื้อโรคเจือปน

นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ร้อนมากอาจทำให้เป็นหวัดแดดหรือหวัดลมร้อน เนื่องจากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ดังนั้น ควรดื่มน้ำในอุณหภูมิห้องปกติ การดื่มน้ำเย็นเกินไปทำให้ร่างกายรับไม่ได้

เมนูคาว/หวานที่แนะนำให้กินเพื่อคลายร้อน ดังนี้

- ห่อหมกปลาช่อน ส่วนผสมของใบยอมีธาตุเหล็ก กินเยอะๆ ทำให้ร่างกายสดชื่น บวกกับในเนื้อปลามีโปรตีน ย่อยง่าย

- น้ำพริกลงเรือ กินคู่กับผัก - ส้มโอกุ้งย่าง ส้มโอทำให้สดชื่น - แกงคั่วฟัก ฟักเป็นตัวช่วย กินแล้วทำให้เย็น

- ไก่ต้มตะลิงปิง การซดน้ำร้อนๆ รสชาติของตะลิงปิงที่เปรี้ยวๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น

ส่วนเมนูหวาน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงตามฤดูกาลของมะม่วง อีกทั้งรสชาติ หวานอมเปรี้ยวสร้างความกระปรี้กระเปร่า แตงโมหน้าปลาแห้ง ลอดช่องดอกอัญชันน้ำเชื่อมกินคู่กับน้ำแข็งดับร้อน ประเภทเครื่องดื่มสมุนไพร น้ำส้มคั้น น้ำตาลสด น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว

การเลือกกินอาหารในฤดูร้อน ต้องมีความรู้ เลือกอาหารที่ร่างกายต้องการ อาหารต้องมีความสด สะอาด ใหม่หรือเป็นอาหารที่เราปรุงขึ้นเอง เลือกน้ำที่สะอาด ไม่เย็น น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น ปริมาณที่กินต้องพอเหมาะกับตัวเรา และที่สำคัญ ควรลดแป้ง/ไขมัน เพราะหน้าร้อนทำให้แน่นจุก ในหนึ่งวันร่างกายสามารถรับได้ 1,800-2,000 แคลอรี่ รวมไปถึงผลไม้สดไม่ควรเกิน 150 กรัม ผลไม้ที่มีน้ำจะมีกรด กรดจากผลไม้และกรดในกระเพาะอาหาร เมื่อมารวมกันจะทำให้เกิดโรคกระเพาะได้

 

 

ที่มา : thaihealth