ผ่านเหตุการณ์แย่ๆ ในชีวิต ยิ่งคิดยิ่งเครียด เรามาหาวิธีก้าวข้ามอารมณ์หดหู่กันดีกว่า

 

1 : ช็อปปิ้งแบบฉลาดๆ เงินช่วยซื้อความสุขได้ชั่วคราว โดยเฉพาะเมื่อต้องการก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ โดย ดร.มิเรียม ทัตเซลแห่งวิทยาลัยเอ็มไพร์สเตท เคยศึกษานักช็อปจำนวน 329 คน พบว่า คนที่จ่ายเงินซื้อของกินชั้นดีและซื้อตั๋วคอนเสิร์ต จะมีความสุขกว่าคนที่หมดเงินไปกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับ นั่นคือ การซื้อประสบการณ์ดีๆ ร่วมกับคนอื่น จะมีคุณค่ากว่าการใช้จ่ายเงินไปเพื่อความสุขของตัวเองคนเดียว

2 : ทำความดี ผู้ที่นิยมไปเป็นอาสาสมัคร ลงแรงช่วยเหลือคนอื่นมักมีความสุขมากกว่าคนที่ไม่เคยทำเลย เคยมีผลสำรวจว่า การทำความดีเพิ่มความอิ่มเอมใจและช่วยเพิ่มความสุขให้ได้จริงๆ แต่ก็มีข้อแม้ว่าต้องช่วยตามกำลังความสามารถ ไม่ใช่ทำไปเพื่อให้ได้หน้านะจ๊ะ

3 : เปิดดูรูปเก่าๆ ใครที่ไม่มีเงินพอจะไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายซื้อประสบการณ์ หรือไม่มีเวลาจะไปทำกิจกรรมการกุศล วิธีง่ายๆ ที่จะหลุดพ้นความหม่นหมอง ลองไปขุดเอารูปภาพเก่าๆ มานั่งเปิดดู ก็ช่วยให้มีความสุขขึ้นมาได้แล้ว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร พบว่า การกัดช็อกโกแลตสักคำ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ดูหนัง ฟังเพลง หรือเปิดดูรูปเด็กๆ หรือสัตว์น้อยน่ารักๆ ก็ช่วยให้มีอารมณ์ดีขึ้นได้ (อย่างละ 1%) แต่ก็ไม่มากเท่าการได้เปิดดูรูปเก่าๆ ของตัวเอง (11%)

4 : ออกไปรับแสงแดด การหมกตัวอยู่ในห้องมืดๆ สลัวๆ ยิ่งทำให้อารมณ์หม่นหมองต้องออกไปรับแสงแดดที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้สมองและจิตใจเพิ่มขึ้นได้ถึง 50% โดยการศึกษาที่เกี่ยวกับด้านอารมณ์และผู้ที่นอนกรนได้ผลว่า คนที่ได้รับแสงแดดจ้าเพียงวันละชั่วโมงก็ช่วยลดความเครียดได้มาก

5 : บันทึกเรื่องดีๆ ทุกๆ คืนก่อนนอน ให้ลองเขียนบันทึกสิ่งดีๆ ที่เจอในวันนั้นๆ สัก 3เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ขนาดไหน(หรือจะใช้วิธีเล่าให้คนในครอบครัวฟังก็ได้)การจดบันทึกเรื่องดีๆ นอกจากจะทำให้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ขณะเขียนหรือเล่าแล้ว หากวันหลังเกิดอารมณ์หม่นหมองเข้าเล่นงานอีกยังสามารถงัดมาอ่านเพิ่มรอยยิ้มได้อีกหลายๆครั้งด้วยนะ

6 : หาความสุขแบบง่ายๆ ลองคิดดูว่าตัวเองทำอะไรแล้วมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการใส่เฮดโฟนฟังเพลงดังๆ อยู่คนเดียว หรืออ่านนิยายให้เข้าไปอยู่ในอีกโลกของจินตนาการชอบแบบไหนก็ทำอย่างนั้น แบบให้ละทิ้งโลกแห่งความเป็นจริงไปได้ชั่วขณะใหญ่ๆ

7 : ออกกำลังกาย ชีวิตต้องดำเนินต่อเพราะฉะนั้นต้องทำร่างกายให้แข็งแกร่ง และจิตใจจะเข้มแข็งตาม นอกจากนี้ ดร.ซอนยาลิวบอมีร์สกี ผู้เขียนหนังสือ The How of Happiness ยังบอกอีกว่า การออกกำลังกายเหมือนเราได้เป็นกัปตันเรือที่ควบคุมนาวาได้เอง นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยกว่า 11 ชิ้นที่สนับสนุนเรื่องการออกกำลังกายทำให้จิตใจแจ่มใสขึ้น

8 : สวดมนต์นั่งสมาธิ ไม่ใช่เรื่องงมงาย เพราะมีผลวิจัยของ Journal of Economic Psychology สนับสนุน หลังจากได้ไปศึกษากลุ่มคนที่มีศรัทธาในหลายๆศาสนา ที่นิยมเข้าวัด (โบสถ์) สวดมนต์ทำสมาธิเป็นประจำ พบว่าพวกเขามีความพอใจในชีวิตเพิ่มมากขึ้น

9 : จูบ ใครคิดว่าไม่สำคัญ เรามักจะเห็นจากฉากในหนังที่พระเอกนางเอกกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็หันมาจุมพิตกันซะอย่างนั้น จริงๆ แล้วการจูบช่วยลดความเครียดได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งผู้หญิงที่จะหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มความอิ่มเอมได้คล้ายกับตอนเสพโคเคน (นักวิจัยว่าอย่างนั้น) ขณะที่ในผู้ชายยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย (แถมให้)

10 : ร้องเพลงตอนอาบน้ำ เออเนอะ...ง่ายแสนง่าย นักดนตรีบำบัดเชื่อว่า การร้องเพลงช่วยให้จิตใจแจ่มใสขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มแอนตี้บอดี้ไว้ต่อต้านความเจ็บป่วยอีกด้วย โดยมีผลวิจัยในเยอรมนีบอกว่า ไม่ว่าจะชอบร้องเพลงของอะเดล หรือบริตนีย์ สเปียร์ส ก็ล้วนช่วยให้จิตใจแจ่มใส สุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์

ภาพประกอบจาก femina.cz