รอยแผลเป็นชนิดขาว เป็นอาการที่ผิวหนังกลายเป็นสีขาวกว่าสีผิวปกติ เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวสีคล้ำอย่างผิวคนไทย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์วาสนภ วชิรมน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายว่า รอยแผลเป็นชนิดขาวเกิดจากการที่เซลล์เม็ดสีในผิวหนังถูกทำลาย ทำให้ปริมาณเม็ดสีในผิวหนังลดน้อยลง สำหรับคนที่มีผิวขาวอยู่แล้ว การมีรอยแผลเป็นขาวอาจ ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ผู้ที่มีผิวสีคล้ำจะพบว่าการมีรอยแผลเป็นขาวเพียงจุดเดียว ก็อาจส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์โดยรวมได้ โดยเฉพาะหากเป็นในบริเวณที่ผู้คนเห็นได้ชัด เช่น ใบหน้า หรือแขน ในบางราย หากพบที่ขาอาจทำให้สวมกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นแล้วไม่มั่นใจ จนอาจทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคด่างขาวได้

สาเหตุ

แผลเป็นชนิดสีขาว เกิดจากเม็ดสีในผิวหนังหรือเมลานินมีปริมาณลดลง กล่าวคือเซลล์เม็ดสีไม่ได้ถูกทำลายไปหมด แต่มีจำนวนลดลงหรือทำงานผิดปกติไป ทำให้ไม่สามารถสร้างเม็ดสีได้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยสาเหตุที่พบ เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อุบัติเหตุ สารเคมีบางชนิดที่มีฤทธิ์กัดเซลล์เม็ดสี หรืออาจเกิด ขึ้นหลังจากผื่นโรคผิวหนังบางชนิดที่มีการอักเสบมากจนเซลล์เม็ดสีถูกทำลายไป เช่น โรคผิวหนังอักเสบ เรื้อรัง อีกสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ได้แก่ รอยขาวที่เกิดขึ้นหลังจากการทำเลเซอร์ โดยเฉพาะ เลเซอร์ที่ใช้รักษารอยดำ พบว่าภายหลังจากการยิงเลเซอร์ไปแล้วรอยดำดูดีขึ้น แต่สีผิวปกติก็หายไปด้วย ทำให้กลายเป็นวงด่างสีขาว

 

ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.kondoodee.com