ปัจจุบันผู้คนประสบปัญหาความเครียด ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน การเรียน ปัญหาสุขภาพ หรือ แม้แต่ความเครียดด้วยการเสพข่าวสารข้อมูลต่างๆ จนทำให้เกิดความเครียดส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ
รศ.ดร.ฉัฐวีณ์ สิทธิ์ศิรอรรถ อาจารย์ประจำสาขาวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า แต่ถ้าเราทำตามหลักอริยสัจ 4 ตามหลักศาสนาพุทธ ด้วยการหาเหตุของทุกข์ จากนั้นหาทางนำไปสู่ความดับทุกข์ ควรนำหลักพุทธศาสนาและจิตวิทยาเข้ามาจัดการความเครียด โดยมองความเครียดที่เกิดจากอารมณ์ ซึ่งจะดูจากความฉลาดทางสติปัญญา (ไอคิว) และความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) และใครก็ตามที่สามารถจัดการอารมณ์ได้
ซึ่งมีความสามารถในการอดทนต่อปัญหาที่เข้ามา ด้วยการระงับอารมณ์ ด้วยหลักทางศาสนา ด้วยขันติ ด้วยความอดกลั้น จากนั้นสาเหตุแห่งความเครียด หาวิธีการปรับตัวและหาวิธีในการดับทุกข์ หาตัวช่วยที่ดับทุกข์นั้น หาเหตุและหาทางแก้ไข ด้วยการฝึกสติ และต้องอาศัยฝึกฝนตลอดชีวิต เพราะแต่ละครั้งแต่ละสถานการณ์แตกต่างกันไป จึงต้องมีการฝึกฝนสติเพื่อรับมือกับปัญหาที่เข้ามาในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ใช้วิธีการนั่งสมาธิ รู้เท่าทันลมหายใจด้วยการฝึกสมาธิและต้องฝึกสมาธิในการมีสติทุกขณะจิต คนที่มีประสบการณ์และลงมือเท่านั้นที่จะเข้าใจ เพราะความทุกข์ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
"ดังนั้นเราต้องเข้าใจและค้นพบตัวเองให้เจอและการฝึกสติก็ไม่จำเป็นต้องฝึกที่วัดหรือมีผู้ฝึกให้เราเสมอไป วัดเป็นสถานที่เริ่มต้นของการฝึกแต่เมื่อรู้วิธีการแล้ว เราต้องเริ่มต้นที่ตัวเอง ข้อควรปฎิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อให้ชีวิตมีความสุข เริ่มจากหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเพิ่มความเครียด เช่น รับประทานอาหารที่ชอบ อ่านหนังสือที่ชอบ ฯลฯ หรือใช้เทคนิคการผ่อนคลายทางกายไปสู่ทางจิตใจ เช่น หายใจเข้าออกอย่างมีจังหวะ ให้ความสนใจกับกล้ามเนื้อร่างกายพูดกับอวัยวะส่วนต่างๆ จากศีรษะเรื่อยลงมาสู่ปลายเท้า ให้ผ่อนคลาย ทั้งนี้ การมีกัลยาณมิตรที่ดี ขอคำแนะนำได้ จะช่วยคลายเครียดได้มาก" รศ.ดร.ฉัฐวีณ์ กล่าว