เคยลองสังเกตตัวเองมั้ย ทุกวันนี้คุณใช้เวลาหมดไปกับการอยู่ในโซเชียลนานแค่ไหน จริงอยู่ที่สมาร์ทโฟนถูกพัฒนาให้มาพร้อมฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

 

 

แต่เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย หากเราไม่รู้จักเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม หลายๆ คนเสียสุขภาพสายตา บ้างก็มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จากการก้มมองหน้าจอโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ สถานะความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างย่ำแย่ อีกทั้งยังหมดเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่ายเหล่านี้แล้วละก็ จงเริ่มต้นหาวิธีดึงตัวเองออกจากโลกออนไลน์ให้ได้ ควบคุมการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คให้เหมาะสม

- หากิจกรรมอย่างอื่นทำ

โซเชียลเน็ตเวิร์คทำให้หลายๆ คนสามารถจดจ่ออยู่กับหน้าจอได้แทบทั้งวัน บางคนที่ติดมากจนควบคุมตัวเองไม่ได้ต้องพลาดอะไรหลายสิ่ง วิธีเริ่มต้นดึงตัวเองออกจากโลกโซเชียลคือ ลองเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไปหาสิ่งอื่นแทน เช่น อ่านหนังสือ หากิจกรรมที่ชื่นชอบทำ จะช่วยให้คุณหยุดการโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งคุณเองจะต้องควบคุมตัวเอง รู้จักแบ่งเวลาในการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คให้พอดี

- คุยกับคนรอบข้างให้มากขึ้น

โซเชียลเน็ตเวิร์คมีประโยชน์ก็ตรงที่ทำให้คนห่างไกลได้รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนใกล้รู้สึกห่างไกลกันมากขึ้น เพราะต่างคนต่างมัวแต่จดจ่ออยู่กับการพูดคุยกับเพื่อนในโลกออนไลน์ จนบางครั้งก็ลืมที่จะใส่จนคนข้างๆ เพราะฉะนั้น เมื่ออยู่กับเพื่อนลองตั้งกฎงดใช้โทรศัพท์ แล้วใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันพูดคุยกันมากขึ้น จะช่วยให้คุณกับเพื่อนเข้าใจกันมากขึ้น

- โทรหาแทนการแชท

เชื่อว่าหลายๆ คน มักใช้การส่งข้อความแชทไลน์แทนการโทรหากัน แนะนำว่าหากมีธุระอะไรให้ใช้การโทรคุยจะดีกว่า นอกจากจะไม่ต้องเสียเวลานั่งพิมพ์แล้ว ยังจะช่วยให้สื่อสารกันเข้าใจได้ง่าย รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้พูดผ่านทางน้ำเสียงได้มากกว่าการพูดคุยผ่านตัวอักษร

- ปิดการแจ้งเตือน

ตั้งค่าปิดการแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นทั้งหมด ปิดการสั่น ปิดเสียง เพราะเมื่อไหร่ที่มีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นหน้าจอ จะเป็นการดึงดูดความสนใจ ทำให้หลายๆ คนมักจะต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ก และเมื่อได้หยิบขึ้นมาแล้วก็มักเผลอหมดเวลาไปกับการเช็กโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหลาย รู้ตัวอีกทีก็เสียเวลาไปมาก

- ลบแอพพลิเคชั่น

ขั้นหักดิบสำหรับคนที่ติดโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างหนัก แนะนำให้ลบแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทิ้งไปซะ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม แล้วพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปหาสิ่งอื่นแทน

 

 

ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต