กลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชี่ยลในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับเรื่องราวของอดีตพริตตี้สาว"จอย"สุภาภร ชุมทอง สาวสวยที่เคยโลดแล่นในวงการพริตตี้ มีรายได้ขั้นต่ำเดือนละหลายหมื่นบาท แต่ปัจจุบันถูกโรคหนังแข็งคุกคาม ซึ่งเป็นโรคที่พบ 1 ใน 5 แสนคน ตลอดเวลาที่เธอเป็นโรคหนังแข็งและมีข่าวแพร่ออกไป ก็มีคนใจดีคอยช่วยเหลือบริจาคเงินเข้ามาให้เธอพอเลี้ยงครอบครัวได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ค้นพบทางรักษาอย่างจริงจัง

    ล่าสุดวันนี้ "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย นำเธอมาพูดคุย พร้อม "นายแพทย์ สมนึก" ศิริพานทอง (กรรมการสมาคมเซลล์บำบัดไทย)ในรายการปากโป้งถึงอาการ และทางรักษาว่ามีแนวทางช่วยเหลือเธอได้อย่างไร และทาง"หนุ่ม กรรชัย" ถึงกับประกาศว่าถ้ารักษาด้วยวิธีการฉีดสเต็มเซลล์ได้ ก็จะบริจาคสเต็มเซลล์ของน้องมายูที่เจ้าตัวเก็บไว้ตั้งแต่เกิด เพื่อช่วยเหลือจอยอีกด้วย

    จอย : ก่อนหน้านี้จอยมีอาชีพเป็นพริตตี้ ดีเจ เอ็มซี อยู่ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ปัจจุบันอายุ 34 ค่ะ  มีครอบครัวแล้วมีลูก 3 คน คนโตผู้ชาย 16 ขวบ คนกลางผู้ชาย อายุ 14 และคนเล็กสองขวบเก้าเดือน ส่วนสามีก็ได้แยกทางกันตั้งแต่ท้อง อาการที่เป็นช่วงแรก ๆ ก็มีความรู้สึกว่ามือเราแดง ๆ ผิวแดง ๆ ปลายนิ้วก็จะมีความรู้ว่ามีเข็มมาทิ่ม พอไปรักษาหมอเขาก็ให้กินยาตามอาการ ปวดตรงข้อนิ้ว อยู่ ๆ ก็ปวด แต่พอปวดก็กินยาแก้ปวด  ส่วนผิวหนังมีแดงทีมือก่อน เป็นอย่างนี้มาประมาณ 3 ปี หมอก็ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร ก็เจาะเลือดบ้าง เอ็กซเรย์บ้าง ก็ไม่เป็นอะไร มารู้ตอนปีที่ 3 เพราะว่ามันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่นมือของเรามันตึง ๆ อาการแดงทันไม่ได้แดงแค่ 10 นาที แดงที่แขนอย่างเดียว อาการปวดข้อที่นิ้วก็เป็นเยอะขึ้น ผิวหนังนอกจากจะแดงแล้วมันก็ยังตึง ๆ 

    ตอนแรกหมอเข้าใจว่าเป็นรูมาตอยด์ แต่พอวินิจฉัยอีกครั้งหมอก็บอกว่าเป็นโรคหนังแข็ง ตอนที่เป็นอายุ 26 ซึ่งหมอบอกว่าเป็นภูมิมันต้านตัวเอง มันทำลายตัวเอง มันไม่ใช่เป็นกรรมพันธุ์ และก็ไม่ใช่โรคติดต่อด้วย พอมีข่าวจอยออกไปมีคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ติดต่อเข้ามาบางคนน้ำหนักเหลือ 26 กิโลกรัม ระบบดูซึมไม่ปกติ แล้วก็ผังพืดมันไปดึงรัดมือให้เลือดเราไปเดินได้ไม่เต็มที่ เกิดจากหนังที่ตึง และดึงรั้งนิ้วเรา นิ้วก็จะกุดลง

    ในรอบปีที่ผ่านมาเป็นข่าวขึ้นมามีใครเข้ามาดูแลหรือช่วยหลือตรงส่วนไหนบ้าง?
    จอย : ก็มีหลายฝ่ายประชาชนช่วยบริจาค ย้อนไปก่อนหน้านี้มีคุณ เปิ้ล จารุณี ให้เครื่องมือทำน้ำมาให้เราจำหน่าย คือพอเราทำจำหน่ายแล้วเนี่ย ก็มีคนที่ไม่กล้ากิน เพราะเขาเข้าใจว่าโรคนี้เป็นโรคติดต่อ พอไม่มีคนมาซื้อเรา เราก็ขายของทางอินเตอร์เน็ตบ้าง หลังจากเราทำงานไม่ได้แล้ว เราก็เริ่มแย่ลงในเรื่องของการเงิน  พอไม่มีเงินก็มีคนบริจาคเงินเข้ามาให้เราเอาน้ำไปบริจาคบ้าง"

    หลังจากนั้นมีการไปพูดคุยกับคุณหมอไหม ว่าอาหารเริ่มเป็นมากขึ้น?
    จอย : ตอนนี้เป็นทั้งร่างกาย พอเริ่มเป็นเยอะขึ้นหน้าก็เป็นโทนเดียวกันหมดเลย เหมือนคนใส่หน้ากากค่ะ ปากจะเล็กลง หนังจะโดนดึง พอเริ่มเยอะขึ้นหมอก็ให้ยาตามอาการแล้วเพราะว่าหมอบอกรักษาไม่หาย ปวดข้อก็ให้กินยาปวดข้อ ให้ยาขยายหลอดเลือด
         
     ช่วงที่หากินไม่ได้ทำอย่างไร?
    จอย : ตอนนั้นพอมีข่าวก็มีพี่บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เอาเรื่องราวของจอยลงในเพจ ก็เลยมีคนช่วยคอยบริจาคมาจำนวนนึงเอาไว้ใช้จ่าย แต่หลังจากที่เราป่วยเราก็ขาดการส่งบ้านมา 4 เดือน ล่าสุดมีหมายศาลมาที่บ้านเพราะบ้านกำลังจะโดนยึด เพราะตอนนี้ก็โพสต์ลงโซเชียลเพื่อขายบ้าน

    ย้อนกลับมาเรื่องอาการ?
    จอย : คุณหมอก็บอกรักษาไม่ได้ ยาก็แค่ประคองอาการไป อาจจะแย่ลงได้ ก็คือจอยผังผืดมันเข้าไปในปอดแล้ว เราหายใจแรง ๆ ไม่ได้แล้ว เราต้องหายใจถี่ ๆ โรคหนังแข็ง บางคนก็มีโดนตัดปอดไปข้างนึงแล้ว ด้วยความที่มันดึงไปหมด วันนี้ทางรายการได้อาจารย์"นายแพทย์ สมนึก ศิริพานทอง"(กรรมการสมาคมเซลล์บำบัดไทย) มาพูดคุยถึงโรคหนังแข็ง เคยได้ยินไหมว่าสเต็มเซลล์

    สามารถรักษาโรคหนังแข็งได้?
    จอย : โรคหนังจะเป็นโรคค่อยเป็นค่อยไป เกิดจากการที่เซลล์เสื่อมสภาพไปเอง โรคหนังแข็งจะโจมตัที่เส้นเลือดก่อน เลือดจะไม่ไปเลี้ยงในร่างกาย ที่ปลายมือจะเป็นสีม่วง พอเลือดไม่เลี้ยงปลายนิ้วจะเป็นแผล และนิ้วก็จะถูกทำลาย และอย่างที่สองผิวหนังจะอักเสบ พออักเสบปุ๊บก็จะกลายเป็นพังผืด คุณหมอหลายท่านบอกว่าโรคนี้รักษาไม่หายอยู่แล้ว แต่เราก็เคารพในการรักษาของคุณหมอนะ แต่บังเอิญผมได้เคยคุยกับท่านอาจารย์สมนึก ศิริพานทอง(กรรมการสมาคมเซลล์บำบัดไทย) ท่านเคยบอกว่ามันสามารถรักษาได้ด้วยสเต็มเซลล์ 

    ยังยืนยังแบบนั้นไหมครับ?
    คุณหมอ:ครับในทางวิทยาศาสตร์ เราก็พยายามดูกลไกการเกิดโรคคืออะไร มันก็จะมี 36 อย่าง หลอดเลือดถูกทำลาย อันที่สองเกิดจากการอักเสบ อันที่สามเกิดจากพังผืด ทีนี้ 3 กลไกลนี้มันจะไม่สามารถย้อนให้มันปกติได้ด้วยการรักษาโดยสารเคมี และประมาณ 5 ปีที่แล้วก็มีนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเห็นผู้ป่วยลักษณะนี้ ก็เลยศึกษาวิจัย โรคที่การแพทย์รักษาไม่ได้แล้วก็ควรจะพัฒนาต่อ ทีมเยอรมันเขาก็พิจารณาว่าการใช้สเต็มเซลล์ เซลล์ของมนุษย์ มันสามารถเอามาเพาะแล้วก็เอามาใช้ดูแลสุขภาพได้ นั่นก็หมายความว่าเอาสเต็มเซลล์ของใครก็ได้ที่แข็งแรงปลอดภัยมาช่วยเขา โดยการฉีดเข้าไปเหมือนการให้น้ำเกลือ มี 4 ประเทศยอมรับกันไปแล้ว แต่ประเทศไทยก็ทำได้ถ้ากรณีที่ทางแพทย์วินิจฉัยว่าไม่มีวิธีการรักษาแล้ว ในกรณีนี้ผมมีลูกสาวที่เคยเก็บสเต็มเซลล์ของมายูเอาไว้แล้วก็เพาะเรียบร้อยแล้ว อยู่ในธนาคาร สเต็มเซลล์ ถ้าเกิดวันนี้อาจารย์บอกว่าสเต็มเซลล์สามารถรักษาได้จริง ๆ 

    ผมบริจาคให้ 10-20 ล้านสเต็มเซลล์ให้ทางคุณจอยไปทำการรักษาได้ใช่ไหม?
    คุณหมอ : ได้ มันจะเกิดประโยชน์ด้วย
    กรรชัย: งั้นผมขออนุญาตให้คุณไปใช้เพื่อช่วยเหลือให้คุณจอยมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมยินดีบริจาคให้ เราจะมาทำเรื่องการบริจาคกันในขั้นตอนต่อไปโดยจากนั้นทางหนุ่ม กรรชัย ก็กล่าวเสริมว่า.."ในกรณีของน้องจอย จริง ๆ ติดตามข่าวคุณจอยมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีข่าว ว่าน้องจอยเป็นโรคนี้ หนังแข็ง และมีโอกาสที่จะเสียชีวิต และเขาก็มีลูกสามคน ติดตามมาตลอด พี่ก็รอดูอยู่ว่าบางทีมันยังไม่ได้ถึงเวลาที่พี่จะต้องเข้าไปถาม เพราะคิดว่าอาจจะมีคนที่จะคอยเข้ามาช่วเยหลือน้องเขาหลายคน พี่ก็รอดูว่าเขาต้องการความช่วยเหลือด้านไหนบ้าง พี่เชื่อว่าเรื่องเงินทองผู้มีจิตกุศลก็ช่วยเหลือน้องเขามาพอสมควรแล้ว แต่ว่าแน่นอนเงินมันก็จะหมดไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันไม่ใช่เงินไง มันคือตัวเขาเองที่จะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงไม่หายแต่ก็ต้องดีขึ้น จนตัวเขาเองสามารถมาทำมาหากินได้ เพราะทุกวันนี้ต่อให้เขาทำน้ำขึ้นมาขาย คนก็จะไม่ยอมดื่มของเขาเพราะคิดว่าเขาเป็นโรคติดต่อ เพราะฉะนั้นปัญหาที่พี่มองแล้ว มันไม่ได้อยู่ที่เงิน หลังจากที่เวลามันผ่านมาปีหนึ่ง พี่ก็คิดว่าเขาต้องได้รับการช่วยเหลือด้านการรักษา ทีนี้ด้านการรักษาพี่ถามคุณหมอมาหลายคน เขาก็บอกว่าโรคนี้มันเป็นแล้วหายยาก ไม่หายหรอก ทีนี้พอมันไม่หายแล้วเราก็มามองดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป บางคนก็อาจจะไปหายาหม้อ หาพระ ส่วนพี่มองว่ามันก็ยังมีเรื่องของวิทยาศาตร์อีกเรื่องคือเรื่องของสเต็มเซลล์ พี่ก็เลยได้คุยกับทางอาจารย์สมนึก ว่าเราจะไปหาสเต็มเซลล์ที่ไหน  ซึ่งเซลล์ของเขาเองก็ไม่ สามารถที่จะเอามารักษาตัวเองได้ พี่รู้อย่างนี้พี่คิดว่าพี่มีเซลล์ของมายูที่เก็บเอาไว้ตอนที่เขาคลอดอยู่ พี่ก็เลยตัดสินใจว่าถ้ามันจะเป็นประโยชน์แก่เขา ทำให้ชีวิตเขาดูแลลูกเขาต่อไปได้เพราะพี่เองก็เป็นคนที่มีลูก พี่เข้าใจหัวอกของเขา เพราะฉะนั้นสเต็มเซลล์ของมายูส่วนหนึ่งก็เลยคิดว่าพี่บริจาคให้เขาดีกว่า เพราะเขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป เป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มากกว่า( แล้วพี่เมย์ว่าอย่างไรบ้าง)ก็โอเค คุยกันแล้ว ปรึกษาแล้ว ก็บอกเขาแล้ว แล้วเดี๋ยวเราก็จะเรียกทางธนาคารสเต็มเซลล์มาทำเรื่องบริจาคโดยผ่านทางคุณหมอ"

ที่มา : สยามดารา.com