ถึงกับออกปากกลางงานแกรนด์โอเพนนิ่งร้าน "Platfrom 5-6 เอกมัย" เองเลยว่ายังทำใจไม่ได้จริงๆ สำหรับนักแสดงสาว " วงศ์ผู้ดี" หลังคู่กรณีเจ้าของ "911ByJT" อย่างนางเอกสาว "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวยอมรับข้อเสนอเป็นเงิน 3,000,000 บาท ซึ่งถือเป็นค่าชดเชยสำหรับการตกแต่งพื้นที่สถานออกกำลังกาย "Smash Gym" เพื่อให้เจ้าตัวย้ายออก เนื่องจากเกิดประเด็นดราม่าชิงพื้นที่จอดรถลูกค้ากระฉ่อนวงการธุรกิจคนดัง!!

โดยงานนี้สาวบุ๋มยังเผยต่ออีกว่า ในส่วนของรายละเอียดต่างๆ ตนไม่อยากที่จะพูดอะไรมากเนื่องจากทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาระหว่างทนาย พร้อมเอ่ยปากเหตุการณ์นี้ทำให้ได้เรียนรู้อีกหนึ่งบทเรียนสำคัญในชีวิต จากนี้ขออยู่เงียบๆ และเดินหน้าเข้าวัด ซึ่งสุดท้ายแล้วผลสรุปจะเป็นเช่นไรนั้นคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์...

หลังจากที่เจนี่ออกมาแถลงข่าว ได้มีการพูดคุยเพิ่มเติมถึงรายละเอียดบ้างหรือยัง ?
"เอ่อ...จริงๆ ที่พี่เข้าไปคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมก็เป็นเพราะพี่รู้สึกว่าตอนนี้เรื่องราวมันเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เนื่องจากเราไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันเลย แต่บางคนก็มองว่าสิ่งที่พี่พิมพ์ไปมันคือการเติมเชื้อไฟ จริงๆ ส่วนตัวพี่ พี่มองว่าตอนนี้ไฟมันคงลามไปไกลแล้ว"

"อย่างล่าสุดหลายๆ คนก็บอกว่าทำไมได้ 3,000,000 บาท แล้วยังไม่จบ จริงๆ มันมีดีเทลเยอะกว่านั้นนะคะที่ฝั่งนั้นเขาไม่ได้บอกสื่อ แต่พี่ก็บอกได้แค่นี้จริงๆ เพราะเขาขอพี่ไว้ว่าไม่อยากให้พูดเรื่องนี้ออกสื่ออีก ดังนั้นบุ๋มขออนุญาตพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายพอ ส่วนเรื่องขอเท็จจริงต่างๆ ที่มันไม่ตรงกัน อันนี้เราก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ"

แสดงว่าเรื่องตัวเลขเรื่องเงินไม่ได้เกี่ยว แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจไม่ตรงกันที่เราอยากเคลียร์มากกว่า ?
"เงิน 3,000,000 บาท ซื้อพี่ไม่ได้หรอกนะ คือถ้าคุณให้เงินมา และจบแค่ตรงนั้นบุ๋มก็ยินดีจบ แต่ถ้าหากคุณมา 3,000,000 บาท พร้อมกับข้อแม้อีก 8 ข้อ มันจะจบยังไง ซึ่งเรื่องนี้เขาไม่ได้บอกสื่อ และบุ๋มเองก็ไม่สามารถพูดได้ด้วย"

เป็นไปได้ว่าสิ่งที่เขาเสนอมาเรารู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม ?
"ครับ (ยิ้ม)"

จริงไหมกับกระแสข่าวที่บอกว่าเราเรียกร้องเงินไปมากกว่า 3,000,000 บาท ?
"ข่าวมั่วมาก พี่จะขอเรียกเงินเกินกว่านั้นได้ยังไง ยกเว้นเสียแต่ว่าเขาขอซื้ออย่างอื่นเพิ่ม ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นพี่ก็จะเอาบิลจริงวาง เนื่องจากเราสร้างมันมาด้วยกัน และเขาเองก็รู้อยู่ว่าราคามันคือเท่าไหร่ พี่ไม่อยากให้ลือไปมากกว่านี้นะคะ"

ในส่วนของกำหนดการย้ายออกตกลงกันเรียบร้อยหรือยัง ?
"ตอนนี้คือ 3 เดือน อย่างที่เห็นในอินสตาแกรม เพราะถ้าหากเราขึ้นชื่อว่าทำธุรกิจมาด้วยกันจริงๆ อย่างน้อยตอนถอยก็น่าจะถอยออกมาให้สวยๆ หน่อยดีไหม"

สมมติถ้าทุกอย่างจบและเขาทำธุรกิจยิมต่อเราจะว่ายังไง ?
"ไม่สนค่ะ เพราะมันคือสิทธิ์ของเขา เขาซื้อโครงสร้างไปแล้ว แต่ถามว่ากลัวหรืออะไรไหม เอ่อ...พี่เสียความรู้สึกมากกว่า แต่อย่างที่บอกมันก็คือสิทธิ์ของเขาค่ะ"

จากนี้ก็จะไม่มีการเจรจาแบบตัวตัวกับฝ่ายนั้นอีก ?
"คงไม่มีแล้วค่ะ เราใช้ทนายคุยกับทนายจะสบายใจกกว่า จากนี้ตัวพี่เองก็จะขอหยุดแต่เพียงเท่านี้ พี่อยากจะเดินไปข้างหน้าและผ่านมันไปให้ได้ค่ะ"

ค่าน้ำค่าไฟที่เรายังค้างไว้ตอนนี้เคลียร์หมดแล้วหรือยัง ?
"เอ่อ...ถ้าหากเขาพูดตามสัญญาเก่าอย่างที่เขาอ้าง ค่าส่วนกลางพี่ไม่ต้องจ่ายนะคะ เพราะพี่จ่ายครอปไปแล้ว 3 เดือนแรก ส่วนเงินตรงนั้นจะหายไปไหนคุณต้องไปเคลียร์กับหุ้นส่วนเอาเอง ดังนั้น ณ วันนี้ให้เขาไปคุยกันเองดีกว่า ส่วนระหว่างขั้นตอนจะมีการคิดอะไรเพิ่มหรือไม่นั้น พี่ก็ขอยกหน้าที่ให้ทนายเป็นคนเจรจาค่ะ"

ทิศทางของฟิตเนสเราหลังจากนี้จะเป็นยังไง ?
"ก็ต้องเดินหน้าหาที่ใหม่ค่ะ แต่คงไม่ไกลจากที่เก่ามาก"

เราได้บทเรียนอะไรจากเหตุการณ์นี้ ?
"สัญญาเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ"

ถือว่าเราซื้อใจคนได้เลยไหม ?
"ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งในชีวิตของบุ๋มค่ะ"

ในส่วนของการทำงาน เรายังสามารถร่วมงานกับเขาได้ไหม ?
"ถ้าละครติดต่อมาพี่ก็รับค่ะ พี่รับทุกงานเลยค่ะ เพราะพี่เองก็กำลังหาเงินสร้างยิมของตัวเอง"

สภาพจิตใจของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"แย่มากค่ะ ขอเข้าวัดอย่างเดียวเลย จากนี้ขออยู่นิ่งๆ เงียบๆ เพราะเอาตรงๆ พี่เองก็รู้สึกเจ็บนะเวลามีคนเข้ามาแสดงความเห็นต่อว่าพี่ หรือต่อว่าน้องเขาทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่อง ดังนั้นพี่อยากให้ทุกคนหยุด จากนี้ก็ยกให้เป็นหน้าที่ของทนายช่วยกันเคลียร์ดีกว่า ส่วนตัวพี่เองพี่ก็จะอยู่นิ่งๆ เอาธรรมะเข้าช่วยค่ะ"

เรียกว่าเราเองก็เลือกที่จะเข้าวัดไปเลย ?
"ใช่ค่ะ เข้าวัดเลยทุกวัน"

ในส่วนกรณีที่ นุ้ย สุจิรา นำข่าวเราไปอ่าน อันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกันหรือยัง ?
"คุยแล้วค่ะ เราก็คุยกันว่าประเด็นมันคืออะไร เพราะจริงๆ แล้วก็มีหลายคนที่เขาพยายามปกป้องบุ๋มเนื่องจากบุ๋มโดนอะไรมาเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนหัวข้อข่าวของสื่อ เช่นบุ๋มให้สัมภาษณ์แบบหนึ่ง แต่ก็ไปด่าบุ๋มอีกแบบหนึ่ง ซึ่งหลายๆ ข่าวบุ๋มก็รู้นะไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่ว่าบุ๋มต้องอยู่กับมันให้ได้"

ระหว่างนี้เราจะทำยังไงหากต้องเข้ายิม เพราะมันก็มีโอกาสที่จะเจอกับอีกฝ่าย ?
"บุ๋มไม่ค่อยไปค่ะ คุณ...ปูนทุกอย่างมันสร้างกับมือนะ ไม้ทุกแผ่นเราเลือกเราดูด้วยตัวเองนะ แต่ตอนนี้มันกำลังจะหลุดจากมือเราไป เราทำใจไม่ได้"

แต่ในส่วนของสามีเราก็ยังต้องเข้าไปดูแลตลอด ?
"ถามว่าเขาทำใจได้ไหม เอ่อ...คือมันก็ต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ เพราะมันคือธุรกิจของเรา และเราเองก็อยากทำให้มันออกมาดีที่สุดเหมือนที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก"

sanook ที่มา